ความรู้
รับซ่อมแอร์ คลองหลวง ไม่เทงาน บริการดี
Jun
รับซ่อมแอร์ คลองหลวง ไม่เทงาน บริการดี
หลายคนสงสัย “เปิดแอร์มาหลายชั่วโมงแล้ว ทำไมแอร์ไม่ตัดซะที?” ปัญหาแอร์ไม่ตัด เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจสำหรับใครหลายๆคนพอๆกับปัญหาแอร์ตัดบ่อยเกินไป จริงๆแล้วถ้าอากาศภายนอกค่อนข้างร้อน ก็เป็นปกติที่แอร์จะทำงานหนักและตัวคอมเพรสเซอร์จะทำงานนานกว่าปกติ แต่ถ้าสภาพอากาศก็ปกติ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็ต้องตรวจสอบกันอีกครั้งว่าแท้จริงแล้วปัญหานี้มีสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วเราจะแก้ไขได้อย่างไรบ้าง วันนี้ร้าน รับซ่อมแอร์ คลองหลวง เราจะพาทุกท่านไปไขข้อข้องใจนี้ด้วยกันค่ะ
บ้านอะไหล่ สนใจติดต่อสอบถาม ไลน์แอด
-
ไม่ได้ทำความสะอาดแอร์มาเป็นเวลานาน
-
ขนาดBTUของแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดของห้อง
-
เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิคอยล์เย็นมีปัญหา
-
แอร์ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์(Inverter)
ไม่ได้ทำความสะอาดแอร์มาเป็นเวลานาน
การใช้แอร์มานานอย่างต่อเนื่องหลายปี แต่ไม่เคยทำความสะอาดแอร์เลย ทำให้มีฝุ่นละออง มีคราบสกปรกสะสมมากมาย แถมยังอาจก่อให้เกิดเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียได้ด้วย หรือถ้าหากฝุ่นละอองเหล่านี้ไปอุดตันในส่วนที่เรียกว่าโบลเวอร์ของแอร์(Blower) ก็จะส่งผลให้แอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งเอาไว้ จำเป็นที่จะต้องทำความสะอาด โดยการนำแผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์ออกมาล้าง ซึ่งสามารถทำได้โดยเปิดฝาครอบด้านหน้าแผงคอยล์เย็น แล้วค่อยๆดึงแผงกรองอากาศที่อยู่ข้างในออกมา ล้างด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกเล็กน้อย นำแปรงสีฟันเก่าที่ขนนุ่มๆมาช่วยขัดบริวณเส้นใยของแผ่นกรองอากาศ ระวังอย่าเผลอนำแปรงที่มีขนแข็งหยาบๆมาขัดนะคะ เพราะจะทำให้เส้นใยฉีกขาดได้ และเมื่อล้างทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้นำไปผึ่งลมให้แห้งหรือจะใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้งก็ได้ โดยใช้ระดับความร้อนที่เบาที่สุด ถ้าจะให้ดีใช้ลมเย็นเป่านะคะ หลีกเลี่ยงลมร้อนหรือการนำแผ่นกรองไปวางผึ่งแดดโดยตรง เพราะจะทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น และทำให้แผ่นกรองอากาศชำรุดง่ายอีกด้วย ร้านรับซ่อมแอร์ คลองหลวงแนะนำว่าควรล้างอย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้แอร์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและกินไฟน้อยลงด้วยค่ะ
ขนาดBTUของแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดของห้อง
หลายคนเข้าใจว่าการใช้แอร์ที่มีขนาด BTU น้อยๆในห้องใหญ่ๆน่าจะทำให้ประหยัดไฟได้มาก เพราะเดี๋ยวความเย็นของแอร์ก็กระจายออกไปเอง นี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างมากและอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของแอร์ด้วย ทำให้แอร์ทำความเย็นไม่ได้ตามระดับที่ตั้งค่าไว้ ที่สำคัญยังส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ตัดการทำงานอีกด้วย ดังนั้นเพื่อยืดอายุแอร์การใช้ขนาด BTUของแอร์จะต้องสัมพันธ์กับขนาดของห้อง ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป
โดยปกติค่าBTU(British Thermal Unit) เป็นหน่วยวัดพลังงานความร้อนตามมาตรฐานสากล เมื่อถูกนำมาใช้กับแอร์จะหมายถึงความสามารถในการถ่ายเทความร้อนออกจากห้องนั้นๆภายในเวลา1ชั่วโมง ถ้าอยากจะทราบว่าห้องของท่านต้องใช้แอร์ที่มีขนาดของ BTU เท่าไร สามารถคำนวณได้ง่ายๆดังนี้
BTU = พื้นที่ห้อง(ตารางเมตร) x ค่า Cooling Load(ค่าความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้อง)
ค่า Cooling Load เป็นค่าความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้องนั้นๆ ซึ่งแอร์จะต้องมีหน้าที่ในการกำจัดความร้อนนี้ออกไป แบ่งตามลักษณะของห้องได้เป็นดังต่อไปนี้
- ห้องนอน ค่า Cooling Load เท่ากับ 700-750 BTU/ตรม.
- ห้องนั่งเล่น ค่า Cooling Load เท่ากับ 750-850 BTU/ตรม.
- ห้องครัว ค่า Cooling Load เท่ากับ 900-1,000 BTU/ตรม.
- ห้องทำงาน ค่า Cooling Load เท่ากับ 800-900 BTU/ตรม.
- ห้องประชุม ค่า Cooling Load เท่ากับ 850-1,000 BTU/ตรม.
วิธีการคำนวณง่ายๆก็เช่น ถ้าห้องทำงาน กว้าง 5 เมตร ยาว 6.5 เมตร
(5×6.5) x 800 = 26,000 BTU
ดังนั้นห้องทำงานนี้ควรเลือกใช้ BTU แอร์ที่มีขนาด 26,000 BTU อาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ได้นิดหน่อย แต่ไม่ควรเกิน 1,000 BTU
เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิคอยล์เย็นมีปัญหา
โดยทั่วไปเซ็นเซอร์จะมี 2ตัวคือเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ มีลักษณะเหมือนหัวไม้ขีดไฟ มักจะติดตั้งอยู่ด้านหน้าของแผงคอยล์เย็น เพื่อทำการตรวจสอบว่าอุณหภูมิของห้องลดลงถึงค่าที่เราได้ตั้งไว้แล้วหรือยัง ถ้าถึงแล้วก็จะสั่งตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิท่อสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) ทำมาจากทองแดง เมื่อท่อเย็นจัด ก็จะตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์เช่นกัน ซึ่งเซ็นเซอร์ทั้งสองตัวนี้ต้องทำงานสัมพันธ์กัน ในกรณีที่แอร์ไม่ยอมตัด ความผิดปกติส่วนใหญ่เกิดจากเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิท่อสารทำความเย็นที่มีความเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสเกิดการสะสมของคราบสกปรกที่ผิวของกระเปาะโลหะบนตัวของมัน ทำให้ค่าความต้านทานภายในตัวของมันลดลงช้ามาก ทำให้แผงวงจรควบคุมเข้าใจว่าท่อยังเย็นอยู่จึงไม่ยอมสั่งให้ชุดคอยล์ร้อนหรือคอนเดนซิ่งทำงานนั่นเองค่ะ ซึ่งในกรณีแบบนี้ต้องติดต่อช่างที่ร้านรับซ่อมแอร์ คลองหลวง มาช่วยตรวจสอบและแก้ไขให้ค่ะ เรามีช่างที่มากด้วยประสบการณ์ ไม่เทงาน แถมพร้อมให้บริการทุกบ้านด้วยความยินดี
แมกเนติกคอนแทคเตอร์มีปัญหา
หน้าที่ของแมกเนติกคอนแทคเตอร์คือทำหน้าที่ตัดต่อกระแสไฟฟ้าที่จะเข้าสู่คอมเพรสเซอร์ โดยจะมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิคอยตรวจจับความเย็น เมื่อแอร์ทำความเย็นได้ถึงตามที่กำหนดเอาไว้ ตัวเซ็นเซอร์อุณหภูมิก็จะส่งสัญญาณไปยังแมกเนติกคอนแทคเตอร์เพื่อตัดกระแสไฟ แล้วคอมเพรสเซอร์ก็จะตัดการทำงานในที่สุด ในกรณีที่แอร์ไม่ยอมตัด วิธีเช็คว่าปัญหามาจากแมกเนติกคอนแทคเตอร์หรือไม่ ให้ลองปิดแอร์ด้วยรีโมทคอนโทรล แล้วไปดูที่ใบพัดของคอนเดนซิ่งว่ายังทำงานอยู่หรือเปล่า ถ้ายังทำงานอยู่ แสดงว่าเจ้าตัวแมกเนติกมีปัญหาค่ะ
น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอ
น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอหรือมีรอยรั่วเกิดขึ้น ทำให้น้ำยาไหลออก ทำให้แอร์มีแต่ลม แต่ไม่มีความเย็นออกมา ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ก็ยังทำงานตามปกติ ในกรณีนี้ต้องปรึกษาช่างร้านรับซ่อมแอร์ คลองหลวงให้มาช่วยตรวจเช็คอาการอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขต่อไปค่ะ
แอร์ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์(Inverter)
ในระบบอินเวอร์เตอร์(Inverter) ตัวคอมเพรสเซอร์จะทำงานตลอดเวลา แต่เมื่อความเย็นมีอุณหภูมิตามที่ตั้งไว้แล้ว คอมเพรสเซอร์ก็จะลดรอบการทำงานให้น้อยลง เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องให้คงที่ ดังนั้นแอร์ก็เลยยังไม่ตัดเพราะคอมเพรสเซอร์ยังทำงานอยู่นั่นเองค่ะ
การที่แอร์ยังไม่ยอมตัดรอบซะที อาจจะเกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของแอร์เองหรืออาจจะเกิดจากความผิดปกติของแอร์หรือเครื่องปรับอากาศในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขนาด BTU ,ตัวเซ็นเซอร์ หรือแมกเนติก รวมไปถึงน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอหรือมีการรั่วของท่อน้ำยาแอร์ เพื่อการใช้งานได้ต่อเนื่องร้านรับซ่อมแอร์ คลองหลวงขอแนะนำให้ท่านเรียกช่างที่มีความเชี่ยวชาญจากร้านของเราให้มาช่วยตรวจสอบและซ่อมแซม และในขณะเดียวกันอย่าลืมหาเวลาล้างทำความสะอาดแอร์กันด้วยนะคะ
หากสนใจก็สามารถโทรไปสอบถามได้เลย อะไหล่ คลิกที่นี่
