ขายเครื่องซักผ้ามือสอง เพิ่มสิน สภาพดี บริการเยี่ยม

การมีเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน แถมประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการเพื่อจะได้มาช่วยผ่อนแรงในการซักผ้าแบบเดิมๆ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องซักผ้ามากมายหลายรุ่นที่ถูกผลิตมาให้เราเลือกสรรอย่างมากมาย พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆกับระบบอัจฉริยะที่ครอบคลุมการทำงานในทุกฟังก์ชั่น เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคน ก่อนซื้อเครื่องซักผ้าควรคำนึงถึงอะไรบ้าง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องซักผ้าแบบไหนเหมาะกับเรา ร้าน ขายเครื่องซักผ้ามือสอง เพิ่มสิน เรามีคำตอบค่ะ

บ้านอะไหล่ สนใจติดต่อสอบถาม ไลน์แอด

แอดไลน์สอบถาม

ดูสินค้าภายในเว็บ

ประเภทเครื่องซักผ้า
ความจุของเครื่องซักผ้า
ตำแหน่งการจัดวางเครื่องซักผ้า

กลับสู่สารบัญ

1. ประเภทเครื่องซักผ้า

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้าอันดับแรกเลย คือ ประเภทของเครื่องซักผ้าค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องซักผ้าจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ คือ

เครื่องซักผ้าฝาหน้า(Front-Loading Washing Machine)

ถือเป็นเครื่องซักผ้าที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนยุคนี้เลยก็ว่าได้นะคะ ลักษณะของเครื่องซักผ้าฝาหน้า คือที่ตัวเครื่องจะมีฝาเปิดและปิดอยู่บริเวณด้านหน้า เพื่อใส่เสื้อผ้าที่ต้องการซัก ทำงานโดยระบบอัตโนมัติ มีระบบควบคุมการทำงานให้เลือกตามความต้องการหลายฟังก์ชั่นเลยทีเดียว

ข้อดีของเครื่องซักผ้าฝาหน้า คือสามารถตั้งอุณหภูมิของน้ำ เพื่อช่วยละลายผงซักฟอกได้ดี จึงทำให้ผ้าสะอาดมากขึ้นและสามารถตั้งอุณหภูมิการอบผ้า เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการตากผ้าระหว่างวันได้ด้วย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถซักผ้าให้สะอาดได้เพียงแค่กดปุ่มเดียว

ข้อเสียของเครื่องซักผ้าฝาหน้าคือมีราคาค่อนข้างสูง และมีการติดตั้งที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยค่ะ

เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังเดียว (Top-Loading Washing Machine)

เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นเครื่องซักผ้ายอดนิยมแบบคลาสสิก โดยมีลักษณะคือมีฝาเปิดและปิดสำหรับใส่เสื้อผ้าอยู่บริเวณด้านบน ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ มีฟังก์ชันในการใช้งานให้เลือกหลากหลาย

ข้อดีของเครื่องซักผ้าแบบฝาบนคือมีความรวดเร็วในการซัก โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 30-90 นาที แต่ก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรมการซักอัตโนมัติที่เลือกด้วย สามารถใช้ซักผ้าในปริมาณที่เยอะได้ สูงสุด 24 กิโลกรัมภายในถังเดียว

ข้อเสียของเครื่องซักผ้าแบบฝาบนคือในเรื่องความสะอาดในการซักอาจจะไม่มากเท่ากับเครื่องซักผ้าฝาหน้า เหมาะกับการซักผ้าที่ไม่ค่อยเปื้อนหรือไม่ค่อยสกปรกมากนัก

เครื่องซักผ้าฝาบน แบบ2ถังหรือถังคู่

ลักษณะพิเศษของเครื่องซักผ้าประเภทนี้จะแบ่งเป็นถังซักและถังปั่นอย่างชัดเจน โดยทั้งสองถังจะมีฝาปิด-เปิดอยู่ด้านบนของเครื่อง เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านที่มีเวลาในการซัก เพราะต้องคอยย้ายเสื้อผ้าจากถังซักไปถังปั่น และที่สำคัญต้องมีพื้นที่ในการติดตั้งจัดวางค่อนข้างมากด้วย

ข้อดีของเครื่องซักผ้าฝาบนแบบสองถัง คือเนื่องจากมีการแยกกันอย่างชัดเจนระหว่างตัวถังซักและถังปั่น ทำให้สามารถทำความสะอาดผ้าได้ดีและราคาไม่แพง

ข้อเสียของเครื่องซักผ้าฝาบนแบบสองถัง คือเสียเวลาในการซักผ้าแต่ละครั้งเพราtต้องใช้คอยย้ายผ้าจากถังซักมาถังปั่นแห้ง ต้องคอยดูแลเรื่องน้ำขณะเปิดใช้งานไม่ให้ล้นออกมาด้วย รวมถึงฟังก์ชันในการใช้งานค่อนข้างน้อย และเครื่องมีเสียงดังรบกวนขณะทำงาน

กลับสู่สารบัญ

2. ความจุของเครื่องซักผ้า

ปัจจัยที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย คือ ความจุของเครื่องซักผ้า โดยจะต้องมีความสัมพันธ์กับขนาดของเครื่อง พื้นที่ในการจัดวาง รวมถึงปริมาณของเสื้อผ้าที่จะซัก ในแต่ละครั้งด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ ร้านขายเครื่องซักผ้ามือสอง เพิ่มสิน บอกเล่าให้เราฟังว่าโดยปกติเครื่องซักผ้าที่มีความจุ 11 กิโลกรัมขึ้นไป จะสามารถซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 56 ชิ้น , เครื่องซักผ้าขนาดความจุ 7-9 กิโลกรัม จะสามารถซักเสื้อผ้าได้ 36-45 ชิ้นโดยประมาณ และ เครื่องซักผ้าที่มีความจุขนาดเล็ก 5-7 กิโลกรัม จะสามารถซักเสื้อผ้าในแต่ละครั้งได้ 25-30 ชิ้นค่ะ แล้วคุณล่ะคะ ซักผ้าครั้งละประมาณกี่ชิ้น ?

3. รอบการปั่นหมาดของเครื่องซักผ้าหรือจำนวนรอบในการหมุนของเครื่องซักผ้า(RPM)

ในเรื่องของรอบการปั่นหมาดของเครื่องซักผ้า หากรอบปั่นหมาดยิ่งสูงเท่าไร ก็จะช่วยให้ผ้าแห้งไวเท่านั้นค่ะ แต่ ช่างประจำร้านขายเครื่องซักผ้ามือสอง เพิ่มสิน มีข้อควรระวังเพิ่มเติม คือ ให้ระวังเรื่องรอบการปั่นหมาดกับผ้าที่มีเนื้อบางด้วยนะคะว่าควรจะให้รอบปั่นหมาดอยู่ที่ 400-700 รอบต่อนาที แต่ถ้าเป็นพวกยีนส์ ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ ก็อาจจะใช้รอบปั่นหมาดที่ 1,000 รอบต่อนาทีได้ค่ะ

4. ฟังก์ชันการใช้งาน

การเทียบฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องซักผ้าแต่ละรุ่น จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจ เลือกซื้อเครื่องซักผ้าได้อีกทาง ซึ่งทุกวันนี้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้มีฟังก์ชันให้เลือกมากมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซักผ้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแช่ผ้าก่อนซัก(Soak) การหน่วงเวลาซัก(Delay End) โปรแกรมช่วยล้างถึงซักอัตโนมัติ โปรแกรมที่ช่วยปล่อยน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มอัตโนมัติ(Auto dose) เป็นต้น แถมยังสามารถสั่งการผ่านApplicationในมือถือได้ด้วย สะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

กลับสู่สารบัญ

5. ตำแหน่งการจัดวางเครื่องซักผ้า

พื้นที่การจัดวางเครื่องซักผ้าก็สำคัญมากเช่นกันนะคะ ซึ่งต้องพิจารณาดูว่าคุณอยู่บ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่แบบไหน กว้างหรือแคบ มีพื้นที่พอไหมสำหรับวางเครื่องซักผ้าในรุ่นที่คุณอยากได้ อย่างเช่น พื้นที่ประมาณ 60 เซนติเมตรจะเหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือพื้นที่ขนาด 45 เซนติเมตร จะเหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาบน และสำหรับบ้านที่มีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนย้าย เครื่องซักผ้าแบบฝาบนและเครื่องซักผ้าฝาบนแบบสองถังก็น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่าค่ะ

6. วัสดุของเครื่องซักผ้า

อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าคือ การดูว่าเครื่องซักผ้าที่เราหมายตาไว้ทำจากวัสดุประเภทใด อย่างเช่น เครื่องซักผ้าที่ผลิตขึ้นจากเรซิ่นและไฟเบอร์ จะสามารถจัดวางไว้ในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้โดยไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการผุกร่อน ถ้าในส่วนของแสตนเลสและเหล็กเคลือบกันสนิม ก็จะมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่อับชื้น และไม่เป็นสนิม ส่วนท่านไหนที่ชอบแบบน้ำหนักเบา ร้านขายเครื่องซักผ้ามือสอง เพิ่มสิน ขอแนะนำว่าควรเลือกเครื่องซักผ้าที่ผลิตจากโพลิเมอร์หรือพลาสติก และสำหรับใครที่อยากได้เรื่องซักผ้าที่เงียบ เสียงเบาขณะทำงาน ช่วยประหยัดพลังงานด้วย ควรเลือกเครื่องซักผ้าที่ผลิตจากโพลีน็อกซ์ก็จะดีกว่าค่ะ

หวังว่าปัจจัยต่างๆประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะคะ สิ่งสำคัญอย่าลืมพิจารณาเรื่องบริการหลังการขายและศูนย์บริการอะไหล่ด้วย เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดปัญหาจะได้มีการแก้ไขอย่างทันท่วงที เพื่อจะได้ซักผ้าอย่างมีความสุขและสบายใจกันค่ะ

หากสนใจก็สามารถโทรไปสอบถามได้เลย อะไหล่ คลิกที่นี่

ความรู้

ขายเครื่องซักผ้ามือสอง เพิ่มสิน สภาพดี บริการเยี่ยม